“ชามะลิใส” VS “ชามะลิ H114” กลิ่น สี รสชาติ ต่างกันแค่ไหน?

เคยสงสัยไหมว่าทำไมชามะลิบางร้านถึงหอมสดชื่น ดื่มง่าย ในขณะที่บางร้านกลับให้กลิ่นหอมเข้มข้นและรสชาติที่ลุ่มลึกกว่า? ชามีความหลากหลายคือเสน่ห์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด และสำหรับผู้ประกอบการร้านกาแฟและคอชาตัวจริง การเลือก “ชาที่ใช่” คือสิ่งสำคัญ วันนี้เราจะมาไขความลับของชามะลิ 2 สไตล์จากโรงงานผลิตชา Bluemocha ระหว่าง “ชามะลิใส vs ชามะลิ H114” บทความนี้จะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกชาที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับธุรกิจและแก้วโปรดของคุณ

กลิ่นหอมละมุนอันเป็นเอกลักษณ์ของ “ชามะลิ” ไม่ว่าจะเป็นแก้วโปรดในของผู้ที่ต้องการความผ่อนคลาย หรือเป็นวัตถุดิบหลักที่สร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการร้านกาแฟและธุรกิจเครื่องดื่มทั่วประเทศ แต่เคยสงสัยไหมว่า… ทำไมชามะลิที่คุณดื่มในแต่ละที่ไม่เคยเหมือนกัน? บางครั้งให้ความรู้สึกสดชื่น ดื่มง่าย สบาย ๆ ในขณะที่บางครั้งกลับรสสัมผัสที่เข้มข้นซับซ้อน และกลิ่นหอมที่ติดในความทรงจำนานกว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของคำถามสำคัญที่นำเรามาสู่บทความนี้ บนชั้นวางใบชาของผู้ประกอบการ หรือในเมนูของร้านคาเฟ่ชั้นนำ คุณอาจเคยเห็นชื่อชาสองชนิดที่ดูคล้ายกันแต่กลับซ่อนความลับไว้มากมาย ความแตกต่างของมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย หรือคือปัจจัยสำคัญที่สามารถวัดความสำเร็จของเมนูเครื่องดื่มและสร้างความประทับใจขั้นสูงสุดให้กับลูกค้าได้เลยทีเดียว วันนี้เราจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของคุณในการไขทุกข้อสงสัย ด้วยการเปรียบเทียบระหว่าง “ชามะลิใส vs ชามะลิ H114” โดยไม่ได้บอกเพียงว่าอะไรดีกว่ากัน แต่จะให้เห็นว่า “ชาชนิดไหนที่ใช่สำหรับคุณ” และ “ชาชนิดไหนที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณ” มากที่สุด

ชามะลิใสและ ชามะลิ H114 คืออะไร?

ก่อนที่เราจะเปรียบเทียบรสชาติและตัดสินใจว่าชาชนิดไหนเหมาะกับคุณ การทำความเข้าใจถึง “ที่มา” และ “ตัวตน” ของชาแต่ละชนิดคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะทุกรายละเอียดในกระบวนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกใบชาไปจนถึงเทคนิคการอบ ล้วนส่งผลโดยตรงต่อกลิ่น สี และรสชาติในแก้วของคุณ เราจะพาคุณไปรู้จักกับทั้งสองของเราอย่างดี เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเหตุใดชาที่ดูเหมือนกัน จึงสามารถสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกันได้

ชามะลิใส (Jasmine Tea)

เมื่อพูดถึง “ชามะลิ” ภาพในใจของคนส่วนใหญ่คือเครื่องดื่มสีเหลืองที่มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ชวนให้ผ่อนคลาย ซึ่งเป็นภาพที่ถูกต้อง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเบื้องหลังความเรียบง่ายนั้นมีกระบวนการที่พิถีพิถันซ่อนอยู่ ชามะลิสูตรคลาสสิกของ Bluemocha ไม่ใช่แค่การนำใบชาแห้งมาผสมกับดอกมะลิ แต่คือศิลปะของการ “ดูดซับ” กลิ่นหอมตามธรรมชาติ

• “ใบชาอู่หลงคัดเกรดนำเข้า” ชาที่ดีเริ่มต้นที่ใบชาเสมอ สำหรับสูตรนี้ เราเลือกใช้ “ชาอู่หลง” (Oolong Tea) ซึ่งเป็นชากึ่งหมัก ที่อยู่ระหว่างชาเขียวและชาดำ ทำให้มีจุดเด่นคือรสชาติที่ไม่ขมฝาดเหมือนชาดำ แต่ก็ไม่จืดชืดเหมือนชาเขียวบางชนิด คำว่า “คัดเกรดนำเข้า” มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ เพราะมันหมายถึงความสม่ำเสมอของคุณภาพ ใบชาทุกล็อตจะมีขนาดและรสชาติใกล้เคียงกัน ทำให้สามารถควบคุมมาตรฐานของเครื่องดื่มในร้านได้อย่างดี ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน ลูกค้าของคุณจะได้รับรสชาติที่ดีเหมือนเดิมเสมอ
• กระบวนการอบกลิ่นด้วย “ดอกมะลิแท้” เคล็ดลับความหอมของชามะลิ Bluemocha อยู่ที่กรรมวิธีเฉพาะของโรงคั่ว เราไม่ได้ใช้หัวน้ำหอมสังเคราะห์ แต่ใช้ “ดอกมะลิแท้” ที่ ใบชาอู่หลงที่ผ่านการแปรรูปแล้วจะมีคุณสมบัติตามธรรมชาติในการดูดซับความชื้นและกลิ่นรอบตัวได้อย่างดี

ชามะลิที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นในด้านความ “สดชื่นและกลมกล่อม” น้ำชามีสีน้ำตาลเหลืองสดใส กลิ่นหอมของดอกมะลิจะชัดเจนแต่ไม่ฉุนจนเกินไป ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ส่วนรสชาติจะนุ่มนวล ไม่มีความฝาดติดลิ้น ทำให้เป็นชาที่ดื่มง่าย ถูกปากคนทุกเพศทุกวัย และเป็นเบสที่ดีสำหรับนำไปผสมกับไซรัปผลไม้ต่าง ๆ โดยไม่รบกวนรสชาติหลัก นี่คือเหตุผลที่มันกลายเป็นชามะลิ “คลาสสิก” ที่ทุกคนรัก

ชามะลิ H114 คืออะไร?

คือ H114 ไม่ใช่ชื่อของสายพันธุ์ชาจากแหล่งปลูกใด ๆ แต่มันคือ “รหัสเกรด” (Grade Code) ที่โรงงานและโรงงานผลิตชา Bluemocha ใช้ในการจำแนกชาที่มีความแตกต่างจากสูตรปกติอย่างชัดเจน มันคือสัญลักษณ์ของความเข้มข้น ความซับซ้อน และประสบการณ์การดื่มชาที่เหนือกว่าไปอีกระดับ

• “ใบชาอู่หลงแท้อบแบบผสมก้าน” ในขณะที่ชามะลิสูตรปกติเน้นที่ใบชาคัดเกรด H114 กลับสร้างเอกลักษณ์ด้วยการใช้ “ใบชาอู่หลงที่อบมาพร้อมก้านชา” หลายคนอาจมองว่าก้านชาเป็นส่วนเกิน แต่ก้านชามีบทบาทสำคัญ ก้านชาจะสะสมสารอาหารและน้ำตาลในรูปแบบที่แตกต่างจากใบชา เมื่อนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปและอบ จะช่วยเสริมให้รสชาติซับซ้อนขึ้น เพิ่มความ “เต็ม” และทิ้งความหวานชุ่มคอไว้ตอนปลาย ซึ่งเป็นลักษณะที่คอชาตัวจริงหา
• “กระบวนการอบที่ยาวนาน” เพื่อรสและกลิ่นที่นุ่มลึก เพื่อให้ใบชาและก้านชาสามารถดูดซับกลิ่นหอมของดอกมะลิอบแห้งได้อย่างเต็มที่และล้ำลึกถึงแก่น ชามะลิ H114 จะต้องผ่านกระบวนการอบที่ใช้เวลายาวนานกว่าสูตรปกติ ภายใต้การควบคุมอุณหภูมิ ความร้อนที่นานขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้กลิ่นมะลิผสานเป็นเนื้อเดียวกับชาเท่านั้น แต่ยังช่วยดึงเอากลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวของชาอู่หลงที่ผ่านการคั่ว ออกมามากขึ้นด้วย

ชามะลิ H114 จึงมีแตกต่างออกไป น้ำชาจะมีสีน้ำตาลเหลืองทองที่เข้มกว่าเล็กน้อย กลิ่นมะลิจะ “หอมชัดเจน” และ “ฟุ้ง” มากกว่า แต่เป็นความหอมในโทนที่นุ่มลึก ไม่ใช่โทนสดชื่นแบบสูตรปกติ จุดเด่นที่สุดคือรสชาติที่ “เข้มข้น” และมี “รสฝาด” ติดมาเล็กน้อย ซึ่งรสฝาดในที่นี้ไม่ใช่รสชาติที่ไม่พึงประสงค์ แต่มันคือ “โครงสร้าง” ของชาที่ดี เป็นคาแรคเตอร์ที่บ่งบอกถึงความเข้มข้นของน้ำชา ทำให้เมื่อดื่มแล้วรู้สึก “เต็มปากเต็มคำ” และทิ้ง “ความรู้สึกหลังดื่ม” ที่น่าจดจำไว้ในลำคอ นี่คือชาสำหรับผู้ที่ต้องการ “รสชาติของชา” จริง ๆ และเป็นวัตถุดิบลับที่ร้านค้าใช้เพื่อสร้างความประทับใจและยกระดับเมนูเครื่องดื่มให้เหนือกว่าคู่แข่ง

ตารางเปรียบเทียบ “ชามะลิใส VS ชามะลิ H114“

ตารางด้านล่างนี้คือบทสรุปที่ชัดเจนที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการคำตอบอย่างรวดเร็ว ส่วนคำอธิบายอย่างละเอียดในแต่ละหัวข้อจะตามมาหลังจากตารางนี้ เพื่อให้คุณเข้าใจถึง “สาเหตุ” ที่ทำให้เกิดความแตกต่างเหล่านั้น

คุณสมบัติ	ชามะลิใส	ชามะลิ H114
วัตถุดิบหลัก	ใบชาอู่หลงคัดเกรด (ไม่มีก้าน)	ใบชาอู่หลงแท้อบผสมก้านชา
ลักษณะใบชาแห้ง	ใบชาอบแห้งม้วนตัวเป็นเกลียวสวยงาม	ใบชาอบแห้งผสมกับก้านชาขนาดเล็ก
สีน้ำชา	สีน้ำตาลเหลืองสดใส	สีน้ำตาลเหลืองทอง
กลิ่น	หอมสดชื่น โปร่งสบาย ชัดเจนแบบทันที	หอมนุ่มลึก อบอวล ฟุ้งกระจายตัวช้า ๆ
รสชาติ	กลมกล่อม นุ่มนวล ไม่มีความฝาด	เข้มข้น ซับซ้อน มีรสฝาดเล็กน้อย
หลังดื่ม	ทิ้งความรู้สึกชุ่มคอ สะอาด สดชื่น	ทิ้งความหอมของมะลิและความหวานชุ่มคอไว้
กลุ่มผู้ใช้ที่แนะนำ	ผู้เริ่มต้น, ร้านที่เน้นเมนูผสม, ผู้ที่ชอบชาดื่มง่าย	คอชา, ร้านที่ต้องการสร้างเมนู Signature, ผู้ที่ชอบรสชาเข้มข้น

• “สี” และ “ลักษณะใบชา” ความแตกต่างแรกที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคือลักษณะทางกายภาพของใบชาและสีของน้ำชาที่ได้ ชามะลิสูตรคลาสสิกที่ใช้ใบชาคัดเกรดจะให้ใบชาที่สวยงาม เมื่อชงแล้วจึงได้น้ำชาสีน้ำตาลเหลืองที่ “สดใส” ซึ่งเป็นลักษณะของชาอู่หลงคุณภาพดีที่ผ่านการแปรรูป แต่ในทางกลับกัน การมีอยู่ของ “ก้านชา” ในชามะลิ H114 คือตัวแปรสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อสีของน้ำชา ก้านชาที่ผ่านการอบจะปล่อยสารประกอบในชาออกมามากกว่าส่วนใบเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้น้ำชามีสี “น้ำตาลเหลืองทอง” ที่เข้มและลึกกว่าอย่างเห็นได้ชัด สีที่เข้มขึ้นนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงรสชาติที่จะเข้มข้นตามไปด้วย
• ความแตกต่างของ “กลิ่น” สดชื่นสบาย ๆ vs หอมนุ่มลึก นี่คือมิติที่สร้างความแตกต่างได้ชัดเจนที่สุด หากเปรียบเทียบเป็นน้ำหอม ชามะลิสูตรคลาสสิกก็เปรียบเสมือนน้ำหอมกลิ่นซิตรัสผสมดอกไม้ขาวที่ให้ความรู้สึก “สดชื่น” เมื่อได้กลิ่นจะรู้สึกตื่นตัว โปร่งสบาย เป็นความหอมที่พุ่งตรงมาทักทายจมูกทันทีที่ยกแก้วขึ้นดื่ม เหมาะสำหรับเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยปลุกความสดชื่นในระหว่างวัน ในขณะที่ กลิ่นของชามะลิ H114 จะเปรียบได้กับน้ำหอมแนว Oriental Floral ที่มีความ “นุ่มลึกและซับซ้อน” กลิ่นของมันจะไม่ใช่ความหอมที่พุ่งขึ้นมา แต่เป็นความหอมที่ “อบอวล” และค่อย ๆ ฟุ้งกระจายตัวอย่างช้า ๆ มีเลเยอร์ของกลิ่นคั่วอ่อน ๆ จากใบชาและก้านชาซ่อนอยู่ภายใต้กลิ่นมะลิ ทำให้เกิดเป็นมิติที่น่าค้นหามากกว่า เป็นกลิ่นที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายและสงบ เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่ต้องการดื่มชา
• รสชาติ “กลมกล่อม” ปะทะ “เข้มข้น” ชามะลิสูตรคลาสสิกมีรสชาติที่ “กลมกล่อม ไม่ฝาด” ที่ดื่มง่าย สบาย ๆ ให้ความสดชื่น ไม่ซับซ้อน เป็นรสชาติที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและเพลิดเพลินได้ทันที ความไม่มีรสฝาดทำให้มันเป็นมิตรอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มดื่มชา หรือสำหรับร้านค้าที่ต้องการเบสชาที่ไม่รบกวนรสชาติของส่วนผสมอื่น เช่น ไซรัปผลไม้ ในทางตรงกันข้าม ชามะลิ H114 ที่มีรส “เข้มข้นและมีรสฝาด” ที่มี Body หนักแน่นและมีแทนนิน ซึ่งก็คือ “รสฝาด” นั่นเอง รสฝาดในชาคุณภาพดีไม่ใช่ข้อเสีย แต่มันคือ “โครงสร้าง” ที่ทำให้ชามีมิติและไม่แบนราบ เป็นรสสัมผัสที่ทำให้รู้สึกสะอาดในช่องปาก ช่วยตัดเลี่ยน และบ่งบอกถึงความเข้มข้นของสารสกัดจากใบชา ความฝาดเล็กน้อยที่สมดุลนี้ เมื่อรวมกับรสชาติที่ซับซ้อนจากก้านชา ทำให้ H114 เป็นชาสำหรับผู้ที่ดื่มชาอย่างจริงจังและต้องการประสบการณ์ที่ “เต็มปากเต็มคำ”
• “ความรู้สึกหลังดื่ม” ชามะลิสูตรคลาสสิกจะทิ้งท้ายไว้ด้วยความรู้สึกชุ่มคอและสดชื่น แต่สำหรับ H114 มันจะทิ้งความหอมหวานของดอกมะลิและชาไว้ในลำคอ ให้คุณได้ถึงรสชาติของมันต่อไปอีกระยะหนึ่งหลังจากที่ดื่มไปแล้ว นี่คือ “ชาเกรดพรีเมียม”

สูตรชงชามะลิ “สำหรับทำขาย”

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้า การชงชาแก้วต่อแก้วอาจไม่ทันต่อความต้องการในช่วงเวลาเร่งด่วน การชงชาเตรียมไว้ในปริมาณมาก คือหัวใจสำคัญของการบริหารร้านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สูตรนี้คือสูตรการชงชามะลิเข้มข้นในปริมาณมากที่ผ่านการทดสอบแล้ว เหมาะสำหรับนำไปตักขายใส่แก้วหรือบรรจุขวด

ส่วนผสม

• ใบชามะลิ 90 กรัม
• น้ำตาลทรายแดง 250 กรัม
• น้ำเปล่า 4 ลิตร

ขั้นตอนการชง :

1. ต้มน้ำให้เดือด : นำน้ำเปล่า 4 ลิตรใส่หม้อ ปิดฝา และต้มจนน้ำเดือดจัด (ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
2. ปิดไฟแล้วใส่ชา : (เทคนิคสำคัญ!) เมื่อน้ำเดือด ให้ปิดไฟทันที แล้วจึงใส่ใบชามะลิ 90 กรัมลงไป การทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ใบชาถูกความร้อนสูงลวกจนเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุของรสฝาดและขม
3. คนและบ่มชา : ใช้ทัพพีหรือช้อนคนให้ใบชาจมน้ำร้อนทั่วถึง จากนั้นปิดฝาแล้วบ่มชาทิ้งไว้เป็นเวลา 10 นาที
4. กรองใบชา : เมื่อครบ 10 นาที ใบชาจะคลายตัวและฟูขึ้น ให้นำมากรองเพื่อแยกกากใบชาออกให้หมด
5. ละลายน้ำตาล : ขณะที่น้ำชาสกัดยังร้อนจัด ให้เทน้ำตาลทรายแดง 250 กรัมลงไปและคนจนละลายสนิท ความร้อนจะช่วยให้น้ำตาลละลายได้ง่ายและไม่ตกตะกอน
6. พักชาเพื่อรสชาติที่ดีที่สุด : (เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ!) หลังจากน้ำชาเย็นลงแล้ว ให้นำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน กระบวนการนี้จะช่วยให้รสชาติของชา “เซ็ตตัว” และมีความเข้มข้นกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นในวันถัดไป

**หมายเหตุ

• สำหรับขายหน้าร้าน : สามารถตักเสิร์ฟใส่แก้วขนาด 16 หรือ 22 ออนซ์ที่มีน้ำแข็งได้ทันที สูตรนี้จะชงได้ประมาณ 15 แก้ว
• สำหรับบรรจุขวด : หากต้องการทำเป็นเครื่องดื่มบรรจุขวด สามารถบรรจุในปริมาณ 200-220 มิลลิลิตรต่อขวดได้เลย

Bluemocha แนะนำ

การทำตามสูตรพื้นฐานจะทำให้คุณได้ชาที่อร่อยอย่างแน่นอน แต่หากคุณต้องการควบคุมรสชาติให้ได้ดั่งใจและเข้าใจ “เหตุผล” เบื้องหลังแต่ละขั้นตอน เทคนิคเหล่านี้คือสิ่งที่คุณต้องรู้

• เลือก “ประเภทใบชา” ให้เหมาะกับ “วิธีการชง”
• ก่อนจะเริ่มชง สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกใช้ลักษณะของใบชาให้ถูกต้องกับอุปกรณ์และวิธีการของเรา เพื่อให้น้ำชามีรสชาติเข้มข้น ไม่จืดหรือฝาดเกินไป ซึ่งชาในท้องตลาดมีลักษณะหลากหลาย เช่น :
  • ใบชาอบแห้ง (เต็มใบ) : คือลักษณะของชา “ชามะลิ” และ “ชามะลิ H114” ของเรา ซึ่งเป็นใบชาคุณภาพสูงที่ยังคงรูปทรงของใบไว้
  • วิธีการชงที่เหมาะสมที่สุด : การต้ม หรือการแช่ในถุงกรอง
  • ข้อควรระวัง : ไม่เหมาะกับการชงด้วยเครื่องชงกาแฟโดยเด็ดขาด เพราะขนาดของใบชาที่ใหญ่เกินไปจะทำให้น้ำไหลผ่านเร็วเกินไป ไม่เกิดการสกัดรสชาติ ทำให้ชาที่ได้ “จืดสนิท” การเลือกใช้ใบชาอบแห้งเต็มใบอย่าง “ชามะลิ H114” กับวิธีการแช่หรือต้ม คือการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่จะดึงความเข้มข้นของรสชาติชาออกมาได้ 100%

สรุป

ตลอดบทความนี้ เราเจาะลึกตั้งแต่ที่มาของใบชา กรรมวิธีการผลิต ไปจนถึงเทคนิคการชงอย่างมืออาชีพ เพื่อตอบคำถามสำคัญที่ว่า “ชามะลิใส vs ชามะลิ H114” นั้นแตกต่างกันอย่างไร? ตอนนี้คุณคงมีภาพที่ชัดเจนอยู่ในใจแล้วว่าชาทั้งสองชนิดไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่ม แต่เป็นวัตถุดิบที่มีคาแรคเตอร์และเป้าหมายในการใช้งานที่แตกต่างกัน

ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีคำตอบว่าชาตัวไหน “ดีที่สุด” มีแต่ชาที่ “ใช่ที่สุด” สำหรับคุณและธุรกิจของคุณในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน

• ชามะลิ
  • เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับความสดชื่น, ความดื่มง่าย, และความคุ้มค่า ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมและอเนกประสงค์ ที่ทุกร้านขาดไม่ได้สำหรับสร้างยอดขายจากเมนูพื้นฐานและเมนูผสมต่าง ๆ
• ชามะลิ H114
  • นี่คือคำตอบสำหรับ ความพรีเมียม, ความหอมลึกมีมิติ, และการสร้างความแตกต่าง ด้วยรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นที่ซับซ้อน มันคืออาวุธลับสำหรับสร้างเมนู Signature ที่จะทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้

สำหรับผู้ประกอบการ ข้อได้เปรียบที่น่าทึ่งที่สุดคือการที่ H114 สามารถมอบคุณภาพระดับพรีเมียมได้ในต้นทุนต่อแก้วที่แทบไม่ต่างจากสูตรปกติ ซึ่งนี่คือโอกาสทองในการสร้างกำไรและยกระดับแบรนด์ของคุณไปพร้อมกัน ไม่ว่าวันนี้คุณจะตัดสินใจเลือกความคุ้มค่าที่หลากหลายของชามะลิสูตรคลาสสิก หรือต้องการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำด้วยชามะลิ H114 เราพร้อมสนับสนุนทุกการเติบโตของธุรกิจคุณ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “ชามะลิใส vs ชามะลิ H114” (FAQ)

• ถาม : ชามะลิ H114 สามารถชงกับนมได้หรือไม่?
  • ตอบ : ได้ และเป็นเมนูที่แนะนำ ด้วยรสชาติที่เข้มข้นและมีรสฝาดเล็กน้อยของ H114 ทำให้รสชาติของชาไม่ถูกความมันของนมกลบจนจืดชืด แต่จะผสานกันอย่างลงตัว ได้เป็นชานมมะลิที่มีกลิ่นหอมและรสชาติชาที่ชัดเจน
• ถาม : หากเพิ่งเริ่มต้นเปิดร้านกาแฟ ควรเลือกชามะลิตัวไหนก่อน?
  • ตอบ : เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยชามะลิ เนื่องจากความอเนกประสงค์ของมันสามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูพื้นฐานได้หลากหลาย (เช่น ชาผลไม้, ชามะนาว) ซึ่งเป็นเมนูที่ลูกค้าส่วนใหญ่ชื่นชอบและขายง่าย เมื่อร้านของคุณเริ่มมีฐานลูกค้าประจำแล้ว จึงค่อยนำชามะลิ H114 เข้ามาเสริมทัพเป็นเมนูพิเศษหรือเมนูพรีเมียม เพื่อสร้างทางเลือกและความตื่นเต้นให้กับลูกค้า
• ถาม : ชามีอายุการเก็บรักษานานเท่าไหร่ และควรเก็บอย่างไร?
  • ตอบ : ชามะลิทั้งสองชนิดของ Bluemocha มีอายุการเก็บรักษา 1 ปีนับจากวันที่ผลิต วิธีการเก็บรักษาที่ดีที่สุดคือเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท ไม่ให้อากาศเข้า เพื่อป้องกันความชื้นและกลิ่นแปลกปลอม ควรวางไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนโดยตรง
• ถาม : ชามะลิมีคาเฟอีนหรือไม่?
  • ตอบ : มีคาเฟอีน เนื่องจากชาของเราผลิตจากใบชาอู่หลงแท้ ซึ่งมีคาเฟอีนตามธรรมชาติ ปริมาณคาเฟอีนจะน้อยกว่าในกาแฟ แต่ก็เพียงพอที่จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า อย่างไรก็ตาม ในใบชายังมีกรดอะมิโนแอล-ธีอะนีน และกลิ่นหอมของมะลิที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายไปพร้อมกัน
• ถาม : สามารถหาซื้อชาของ Bluemocha ได้ที่ไหนบ้าง?
  • ตอบ : คุณสามารถสั่งซื้อชาคุณภาพของเราได้โดยตรงและสะดวกที่สุดผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ หรือติดต่อฝ่ายขายของเราโดยตรงตามข้อมูลที่ให้ไว้ข้างต้น เพื่อรับคำปรึกษาและข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าธุรกิจ

สร้างแบรนด์ชาของคุณเองกับ Bluemocha

เมื่อคุณได้เห็นถึงความแตกต่างและความใส่ใจในรายละเอียดที่ทำให้เกิดชาคุณภาพอย่าง “ชามะลิ H114” แล้ว อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณอยากก้าวไปอีกขั้น จากการเป็น “ผู้เลือกใช้” สู่การเป็น “ผู้สร้างสรรค์” แบรนด์ชาที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แล้วจะดีกว่าไหม? หากคุณสามารถมีผลิตภัณฑ์ชาคุณภาพพรีเมียมในแบบฉบับของคุณเอง โดยไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงาน

นี่คือโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณจะฝันอยากเป็นเจ้าของ “แฟรนไชส์ชานมไข่มุก” ที่กำลังเติบโต หรือเป็นเจ้าของกิจการที่ต้องการต่อยอดความสำเร็จด้วยการมีสินค้าชาภายใต้แบรนด์ของคุณเอง โรงคั่วชาบลูมอคค่าพร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดและกำลังหลักในการผลิตให้คุณ

บริการรับผลิตชา OEM & ODM ครบวงจร

เราโรงงานชาเชียงใหม่ และผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านกาแฟและแฟรนไชส์ชาทั่วประเทศ เราเข้าใจดีว่าหัวใจสำคัญไม่ได้มีแค่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ยังรวมถึงการบริการที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้ เพื่อให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน

• สินค้าและบริการที่หลากหลายพร้อมให้คุณสร้างแบรนด์ : เราไม่ได้มีแค่ชามะลิ แต่มีผลิตภัณฑ์ชาคุณภาพสูงพร้อมผลิตให้คุณเลือกสรรกว่า 50 รายการ เพื่อสร้างความหลากหลายและโดดเด่นให้กับแบรนด์ของคุณ อย่างเช่น ชาเขียว, ชาไทย, ชาดอกไม้, ชาผลไม้, ชาใส, ผงเครื่องดื่ม, และเมล็ดกาแฟคั่ว
• รับผลิตชา OEM & ODM : ด้วยขั้นต่ำการผลิตที่ไม่สูงเริ่มต้นเพียง 51 กิโลกรัม (สามารถคละสินค้าได้) ในเรทราคาโรงงานโดยตรง ช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบของคุณได้อย่างมหาศาล
• บริการพัฒนาสูตร : สามารถผลิตตามสูตรเฉพาะของคุณ หรือให้เราช่วยแกะและพัฒนาสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ให้แบรนด์ของคุณได้
• ออกแบบให้ฟรี! : บริการออกแบบฉลากและโลโก้เบื้องต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
• เลือกบรรจุภัณฑ์ได้ : ลูกค้าสามารถเลือกสีและรูปแบบซองบรรจุภัณฑ์ได้ตามความต้องการ
• บริการจด อย. : บริการยื่นจดทะเบียนคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ฟรี เมื่อสั่งผลิตครบ 100 กิโลกรัมขึ้นไป
• บริการครบวงจรเพื่อการส่งออก : สำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งออกชาไปต่างประเทศ เรามีบริการขอใบ Certificate เพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณ

มาตรฐานการผลิตที่เชื่อถือได้ ด้วยกำลังการผลิตสูง

โรงงานชาบลูมอคค่าให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง กระบวนการผลิตของเราได้มาตรฐานสากล มีเครื่องหมายรับรอง พร้อมด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยและการควบคุมคุณภาพ (QC) ในทุกขั้นตอน เรามีสต็อกวัตถุดิบคุณภาพสูงจำนวนมากและมี “กำลังการผลิตสูง” พร้อมรองรับออเดอร์ขนาดใหญ่จากแฟรนไชส์และธุรกิจทุกระดับ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และทันต่อความต้องการของตลาดเสมอ

“เพราะบลูมอคค่า… เราคือเพื่อนคู่คิด ผลิตใบชา ให้คำปรึกษาครบวงจร”